Comments system

[blogger][disqus][facebook]

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ยินดีต้อนรับ ท่านหัวหน้า

     ช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลามาระบายอารมณ์ด้วยการเขียนBlog แค่สุดท้ายก็อดไม่ได้ต้องหาจังหวะเหมาะๆที่ผู้ป่วยเริ่มซาลง แอบมาเขียนบทความต่อครับ เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะคิดถึงผมมากเกินไป

     ตอนเด็กๆเรามักจะถูกปู่ย่าตายายสอนอยู่เสมอให้ตั้งใจเรียน ขยันอ่านหนังสือ โตขึ้นจะได้เป็นเจ้าคนนายคน แต่ปัญหาคือมันดันได้เป็นเร็วไปนิดน่ะดิ ไอ้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเป็นประจำกับว่าที่นักรังสีฯที่เพิ่ง
ก้าวเท้าออกมาจากประตูมหาวิทยาลัยเข้ามาใช้ชีวิตในโลกของการทำงาน แล้วเกิดโชคดี(หรือเปล่า)ได้รับตำแน่งหัวหน้าแผนก อันเนื่องมาจากเหตุผลบางประการ เช่น ไม่มีนักรังสีฯทำงานที่แผนกเลยซักกะคน หรือมีแต่ไม่มีใครอยากเป็นหัวหน้าแผนก(อันนี้ต้องระวัง) แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คุณคือผู้ที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดในแผนก ส่วนจะมีอำนาจหรือความสำคัญแค่ไหนมันก็อีกเรื่องหนึ่ง

    ทีนี้ปัญหาของท่านหัวหน้าคนใหม่ ก็คือ ความด้อยประสบการณ์ในการทำงานจริง ถึงแม้ว่าจะมีองค์ความรู้อยู่เต็มพุง แต่กับงานรังสีเทคนิคที่ต้องอาศัยทักษะเป็นสำคัญ ไอ้ทักษะที่ว่าก็ต้องมาจากการฝึกฝน การฝึกฝนมันก็ต้องอาศัยเวลาในการขัดเกลา นอกจากนี้เหตุผลที่เราอายุยังน้อย วุฒิภาวะทางอารมณ์อาจจะยังไม่ดีพอ ขาดการยับยั้งชั่งใจ จนบางทีทำให้เกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งภายในแผนกได้ง่ายๆ

    ผมเองก็เคยประสบชะตากรรมเช่นนี้มาเหมือนกัน กว่าจะผ่านมาได้ เลือดตาแทบกระเด็น ก็เลยเอาประสบการณ์ของตัวเองมาแบ่งปันให้น้องๆได้นำไปประยุกต์ใช้สำหรับตัวเอง แนวทางของผมก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ มา...เรามาเริ่มกันดีกว่า

   1.  พัฒนาทักษะในงานประจำให้จ๊าบที่สุดเท่าที่จะทำได้
   เจ้าหน้าที่แผนกเอกซเรย์แทบทุกที่มักไม่ค่อยยอมรับหัวหน้าที่มีความสามารถในการทำงานด้อยกว่าพวกเขา เป็นเรื่องทั่วๆไปที่เข้าใจได้ไม่ยาก นี่เป็นสิ่งแรกที่ผมทำตอนที่ถูกยัดเยียดตำแหน่งหัวหน้าแผนกให้ทั้งๆที่เพิ่งจบมาใหม่ๆ คุณต้องพยายามพัฒนาตัวเอง อ่านหนังสือ ค้นคว้า สอบถามจากอาจารย์หรือเพื่อนๆ ในทุกประเด็นที่คุณยังไม่เข้าใจ คุณต้องวิ่งเข้าหาผู้ป่วย ยิ่ง case ยากๆ ยิ่งต้องวิ่งเข้าหา ไม่มีใครเก่งมาได้จากการหนี case หรอกครับ สำหรับคนเป็นหัวหน้าด้วยแล้วการหนี case ยากๆหรือ case ที่ไม่ชำนาญ มันแสดงถึงความขี้ขลาดและไม่มีความรับผิดชอบ ถึงแม้ว่าเราจะยังทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อาจจะขอให้พี่ๆเข้ามาช่วยเราก็ได้ อย่าอายที่จะขอความช่วยเหลือในสิ่งที่เรายังทำไม่ได้ จริงอยู่ว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นอาจจะเอาเรื่องนี้ไปนินทาลับหลัง ขอให้ทำเป็นไม่สนใจ และเมื่อมี case แบบเดิมอีก จงไม่รีรอที่จะเข้าไปทำ case เพื่อแสดงให้รู้กันไปเลยว่าคุณทำได้แล้วนะ ค่อยๆสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเสียงนินทาต่างๆเกี่ยวกับความาสามารถในการทำงานของคุณก็จะลดลงไปเอง แต่อย่าหวังว่าจะไม่มีใครนินทาคุณ เพราะมันเป็นไปไม่ได้
   หมายเหตุ   คุณเชื่อผมไหมว่าทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าคนที่เพิ่งจบการศึกษามาหมาดๆ ไม่มีทางที่จะทำงานได้ทุกอย่าง และมีความชำนาญทัดเทียมคนที่ทำงานมานานแล้วได้หรอกครับ แต่ที่เขาแสดงออกในทางลบกับคุณมันมาจากเหตุผลอื่นมากกว่า ดังนั้นแม้ว่าคุณจะแสดงความสามารถจนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาสาธารณชนแล้วก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานนะครับ มันยังต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆอีก

วันนี้เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวว่างๆเราค่อยมาต่อกันอีก ...เด้อ..

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น