Comments system

[blogger][disqus][facebook]

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

งานของผู้ช่วยนักรังสีการแพทย์

     บุคลากรในแผนกรังสีวิทยา โดยทั่วไปจะประกอบด้วย รังสีแพทย์ นักรังสีการแพทย์ เจ้าหน้าที่รังสีการแพทย์ ผู้ช่วยนักรังสีการแพทย์ คนงาน แม่บ้าน ซึ่งแต่ละคนก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบกันไป
   
     วันนี้เรามาว่ากันถึงเรื่องของผู้ช่วยนักรังสีการแพทย์(ต่อไปนี้ผมขอใช้คำว่า ผู้ช่วยฯ นะครับ) ซึ่งก็มีหน้าที่ "ช่วย" งานต่างๆของนักรังสีการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่รังสีการแพทย์ บุคคลากรเหล่านี้ไม่ได้จบการศึกษาด้านรังสีเทคนิค มีงานหลักๆเช่น ล้างฟิล์ม ส่งฟิล์ม เตรียมผู้ป่วยก่อนเข้ารับการตรวจ แต่ไม่ใช่การไปเอกซเรย์ผู้ป่วยแทนนักรังสีการแพทย์

    
ตามกฎหมายไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่ได้จบการศึกษาด้านรังสีเทคนิค ทำการกดปุ่มปล่อยรังสีเข้าใส่ผู้ป่วย พูดง่ายๆคือ ไม่ให้เอกซเรย์ผู้ป่วยนั่นแหล่ะครับ เพราะการใช้รังสีนั้นแม้จะมีประโยชน์แค่ไหน แต่ก็มีอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย หรือแม้แต่ตัวผู้ปฏิบัติงานเอง จึงควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นคนตัดสินใจจะดีที่สุด

     แต่ในความเป็นจริงประเทศของเรา ยังขาดแคลนบุคคลากรด้านรังสีการแพทย์อยู่มาก  ยิ่งในยุคแห่งการประกันสุขภาพแบบนี้ ดูเหมือนว่ามีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอสักที จากปัญหานี้ ทำให้มีการฝึกฝนให้ผู้ช่วยนักรังสีฯสามารถเอกซเรย์แบบง่ายๆ นานวันเข้าบุคลากรเหล่านี้ก็มีประสบการณ์และทักษะมากขึ้น บางท่านสามารถทำได้ดีจนผมเองยังงงมาแล้ว ว่าเขาทำกันได้อย่างไร

     ในบางโรงพยาบาล(โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนตามต่างจังหวัด) จะใช้ผู้ช่วยนักรังสีการแพทย์ ทำงานแทนนักรังสีการแพทย์มันซะเลย จะด้วยเหตุผลด้านกำลังคนหรืองบประมาณก็สุดจะเดา บางแห่งถึงกับให้ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์กันเลยทีเดียว

     ผมเองก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรกับเรื่องนี้มากนัก เข้าใจว่าบางที่มันขาดแคลนจริงๆ ต้องแก้ไขกันไปตามสภาพ แต่ถึงอย่างไรก็ควรมีการควบคุมคุณภาพ กำกับดูแลการทำงานโดยผู้ที่มีความรู้ แต่สำหรับการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เนี่ย ผมรับไม่ได้จริงๆ เห็นศูนย์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์บางที่ ให้ผู้ช่วยที่ไม่ได้เรียนมาด้านนี้เลยมาทำงานแทนอย่างหน้าตาเฉย  มันน่าเกลียดเอามากๆครับ เหมือนกับท่านกำลังเอาเปรียบผู้ป่วย และไม่ให้เกียรติแก่วิชาชีพรังสีเทคนิค ถึงแม้ว่าผู้ช่วยเหล่านี้จะทำงานได้ แต่เนื้องานจริงๆแล้วมันไม่ค่อย work ซักเท่าไหร่ งานเหล่านี้ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ ทั้งเรื่องเทคนิคการถ่ายภาพ โรคและการดำเนินของโรค กายวิภาค ฟิสิกส์ทางรังสี มันให้คนอื่นมาทำแทนไม่ได้หรอกครับ ผมเคยคุยกับน้องผู้ช่วยฯที่ทำงานในศูนย์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่ายังขาดความรู้และทักษะอยู่มาก ผมไม่โทษน้องเขา เพราะน้องเขาไม่รู้ แค่ทำตามที่พี่ๆสอนมา ไม่ทราบว่าจริงๆแล้วมันผิดกฎหมาย แต่อยากจะเตะก้านคอนักรังสีฯที่นั่นมากกว่า แหม...ทำไปได้



     

2 ความคิดเห็น:

  1. เเล้วผู้ช่วยนักรังสีการแพทย์ต้องใช้วุฒอะไรสมัครยังไงครับ

    ตอบลบ
  2. อันนี้คงเป็นประเด็นปัญหาโลกแตกไปซะแล้ว ไม่เห็นมี รมต.สธ. หรือ กพ. จะนึกถึงปัญหานี้เอาซะเลย เนื่องจากบุคลากรรังสีการแพทย์จริงใน รพช.ก็ยังขาดแคลน มีตำแหน่งจริงๆ เพียง 1 คนเท่านั้น บางแห่งไม่มีเลยแปลกดี แต่การทำงานรังสีของโรงพยาบาลทุกแห่งนั้นต้องบริการ 24 ชั่วโมงนะคะ คำถามที่อยากถามคือทำไมไม่มีตำแหน่งบรรจุลงไปเลยว่า 2 ตำแหน่งอย่างน้อย เพราะจะได้ผลัดกันขึนทำงานนอกเวลา หรือสลับกันกรณีเช่นการไปประชุม สัมมนา ก็อย่างน้อยมีนักรังสีฯ จริงๆ ทำงาน ถ้ามามองที่จุดหน้างานจริงๆ ก็ไม่อยากให้มีคนอื่นที่ไม่ใช้นักรังสีฯ มาทำงานแทนหรอกแต่ในเมื่อบุคลากรไม่เพียงพอจริงๆ ก็จำเป็น เพราะไม่รุ้จะทำอย่างไร รัฐไม่มีตำแหน่งกรอบให้ ส่วน รพช.เล็กๆ จนๆ การจ้างนักรังสีฯ เอง ก็แค่ฝันหวาน ค่ะ สู้ไปจ้างผู้ช่วยที่ไม่ได้จบรังสีฯ โดยตรงมา มันช่วยประหยัดรายจ่ายของ รพ . ... อันนี้คือความจริงล้วนๆ ทำใจค่ะ

    ตอบลบ