Comments system

[blogger][disqus][facebook]

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปัญหาการตั้งค่า Exposure technique สำหรับระบบ CR

     หลังจากคราวที่แล้วผมได้พูดคุยเกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้ังานระบบ CR ซึ่งกว่าจะได้ใช้ก็เล่นเอาเหนื่อย ทีนี่มาเจอปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่า Exposure technique ซึ่งวิศวกรของบริษัทเจ้าของระบบ ก็แนะนำให้ใช้ High kV technique ซึ่งจากการทดลองก็พบว่าได้ผลพอสมควร แต่ภาพที่ได้ยังปรับค่าได้ยาก ( ทดลองโดยใช้เทคนิค 100 kV , 2mAs และเทคนิค 85 kV, 5mAs สำหรับการถ่ายเอกซเรย์ปอด) นอกจากนั้นยังพบปัญหาการเกิดภาพซ้อน ซึ่งเท่าที่สังเกตจะเกิดจากการนำ Image plate ที่ถ่ายภาพพวก Abdomen, KUB หรือ Pelvis มาใช้ถ่าย Chest แบบ High kV (หมอที่ รพ.ชอบภาพ Abdomen แบบ High mAs มากกว่า เราเลยต้องจัดให้ตามคำขอ)

     หลังจากนั้นจึงทดลองปรับค่า mAs ใหม่ โดยเพิ่มค่า mAs จากเดิมที่เคยใช้ประมาณ 10 % พบว่าภาพที่ได้ดูดีขึ้น ปรับภาพง่ายขึ้นครับ พอลองคุยกับเพื่อนร่วมงานในแผนก ทุกคนก็โอเคดีนะครับ (ที่จริงผมว่าพี่เขาขี้เกียจจำค่าเทคนิคอันใหม่มากกว่า 55) ถ้าใครเพิ่งเริ่มใช้ CR ช่วงแรกถ้ายังทำ Exposure Chart ไม่เสร็จ ก็เอาสูตรนี้ไปใช้ก็ได้ครับ คือให้ kV เท่าเดิมที่เคยใช้ แต่เพิ่ม mAs ขึ้น 10% (หรือ 1 สเตป ถ้าขี้เกียจจำ) แต่ต้องทดลองดูก่อนนะครับ เพราะ CR แต่บริษัทมันสเปกไม่เหมือนกันครับ ผมเองก็ใช้วิธีบ้านๆแบบนี้หล่ะครับ

     อย่าลืมเอาภาพไปให้หมอท่านดูก่อนนะครับ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง ตอนแรกๆอาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะงานรังสีเทนิคแบบเรา มันต้องแล้วแต่คุณหมอ ถ้าหมอไม่เอาด้วยเราก็ลำบาก แต่ต้องไม่ทำอะไรที่เสี่ยงหรือทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ(ที่ตรูก็จำไม่ค่อยจะได้แล้ว)นะครับ

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ความท้าทายใหม่กับระบบ CR

 
 
หลังจากพยายามมานาน ในที่สุดผมก็ได้ใช้งานระบบ CR กะเขาซักที อาจจะช้าไปบ้างแต่ก็ถือว่ายังดีกว่าไม่ได้ใช้ เนื่องจากต้องทนกับระบบการล้างฟิล์มด้วยน้ำยามาหลายปี จนเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรัง สายตาก็เริ่มมีปัญหา ถึงแม้ว่าเราจะป้องกันตัวเองอย่างไร ในระยะยาวเราก็ต้องได้รับผลข้างเคียงจากน้ำยาล้างฟิล์มอยู่ดี

     ระบบ CR มันดีตรงที่เราไม่ต้องไปเลี่ยนหรือดัดแปลงเครื่องเอกซเรย์(ซึ่งมันก็เก่าแล้ว) เราเปลี่ยนที่ระบบการสร้างภาพ จากเดิมที่เราต้องเอาฟิล์มไปล้างในห้องมืด แล้วได้แผ่นฟิล์มออกมา แต่ในระบบ CR เราใช้ Image plate เป็นตัวรับภาพแทนคาสเซท แล้วจึงนำ Image plate ไปเสียบเข้าเครื่อง CR แล้วไอ้เจ้าเครื่อง CR นี้มันก็จะแปลงภาพมาเป็นไฟล์ติจิตอล แสดงบนหน้าจอ ซึ่งไฟล์เหล่านี้เราสามารถส่งต่อให้แพทย์ดูได้ทางระบบ Network ของโรงพยาบาล หรือจะดูผ่าน Internet ก็ได้

     นับเป็นสิ่งท้าทายสำหรับนักรังสีเทคนิค ที่จะต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยี่สมัยใหม่ และต้องควบคุมคุณภาพของภาพรังสีให้ได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ ยอมรับว่าตอนแรกผมต้องปรับตัวเรียนรู้อยู่พอสมควร กว่าจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง มีปัญหา อุปสรรคอยู่พอสมควรเดี๋ยววันหลังผมจะมาเล่าต่อนะครับ วันนี้แค่นี้ก่อนครับ งานเข้าล่ะ

   

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มะเร็งตับ.....ทำไมมันเยอะจังฟระ!!

     เนื่องจากการนั่งกดแป้นพิมพ์เครื่อง CT Scan อยู่ทุกวันๆ ผมเจอผู้ป่วยมาด้วยมะเร็งตับ หมอสงสัยมะเร็งตับ เยอะมากๆๆๆ เอาเป็นว่าเกือบทุกวันที่ผมมาทำงานเลยก็ว่าได้ เฮ้ย! คนไทยเป็นมะเร็งตับกันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ มันบ้ามากที่เราเจอผู้ป่วยมะเร็งตับมาเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เกือบทุกวัน อีกหน่อยคงเป็นกันทั้งเมืองแล้วมั้งเนี่ย

     ที่จริงแม้แต่คนที่ผมรู้จักก็จบชีวิตด้วยมะเร็งตับไปหลายคน ซึ่งจะว่าไปส่วนใหญ่ก็เป็นพวกดื่มหนักทั้งนั้น มีเป็นบางคนที่ไม่ดื่มเหล้าแต่ก็สูบบุหรี่จัด หรือไม่ก็พวกชอบกินสุกๆดิบๆ น่าแปลกที่เราเป็นประเทศไม่ค่อยรวยเท่าไหร่แต่กลับมีสถิติการดื่มสุราที่สูงติดอันดับต้นๆของโลก สงสัยเข้าตำรา "จน เครียด กินเหล้า" ทั้งที่บ้านเรามันร้อนบรรลัย แต่อัตราส่วนคนดื่มเหล้าก็ยังสูง