Comments system

[blogger][disqus][facebook]

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กลับบ้านเจอน้ำท่วม

     เนื่องจากช่วงวันหยุดวันแม่ ผมและครอบครัวได้เดินทางกลับเยี่ยมพ่อแม่ ที่ จ. นครสวรรค์ ก่อนไปก็หวั่นใจอยู่เหมือนกัน ว่าจะไปเจอกับน้ำท่วมแล้วจะเดินทางไม่ได้ ต้องคอยโทรเช็คกับพ่ออยู่ทุกวัน เรียกว่าอัพเดทสถานการณ์ล่าสุดกันเลยทีเดียว แต่พ่อก็บอกอยู่ตลอดว่า มันไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่เป็นข่าว พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นพื่นที่ซึ่งเคยเป็นหนองน้ำมาก่อน พอมีน้ำจากภาคเหนือเข้ามาถึงก็เลยท่วมอย่างง่ายดาย เพียงแต่สมัยนี้สื่อต่างๆเกาะติดเหตุการณ์มากไปนิดนึง ภาพที่ออกมามันก็เลยดูน่ากลัว (อันนี้เฉพาะเขตบ้านผมนะครับ ที่อื่นท่วมหนักจริงๆ)


     จำได้ว่าตอมผมยังเด็กๆ แถวบ้านมีหนองน้ำเยอะมาก แค่หมู่บ้านของผมก็มีหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ถึง 3 แห่ง เป็นแหล่งหาปลาชั้นยอดของเด็กน้อยอย่างพวกเรา นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งหาผักบุ้ง ผักกระเฉด และรากบัว ตอนนั้นเวลาจะทำแกงปลากินมื้อเย็น แม่จะเตรียมเครื่องแกงตั้งแต่พ่อยังไม่ออกไปหาปลาด้วยซ้ำ ผมเคยถามแม่ว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น แม่ว่ายังไงๆก็ได้ปลาแน่นอน และทุกครั้งก็ไม่เคยผิดหวัง เราจะได้กินแกงปลาสุดอร่อยเป็นอาหารเย็น

     พอผมเข้าเรียนชั้นมอปลาย พวกชาวบ้านก็เริ่มถางป่าทำนา และทำไรพริกกันมากขึ้น ใครที่มีที่ดินน้อย ก็จะไปไถที่บริเวณข้างๆหนองน้ำ เพื่อเตรียมเพาะปลูก เนื่องจากในช่วงหน้าแล้งน้ำในหนองจะลดลงจนเกือบแห้ง จึงมีพื้นที่ให้ทำการเกษตรได้บ้าง นานวันเข้าคนก็เข้าไปทำไร่ในบริเวณหนองน้ำมากขึ้น จนในที่สุดก็ไม่มีหนองน้ำอีกต่อไป มีแต่นาข้าว ไร่พริก และไร่ข้าวโพด

     พื้นที่เหล่านี้คือบริเวณที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ล่ะครับ ชาวบ้านแถวนั้นรู้กันดีครับ ว่าถ้ามีน้ำเหนือหนุนเข้ามาต้องท่วมแน่ๆ แต่ก็เลือกที่จะเสี่ยง เพราะหมายถึงรายได้ก้อนโตที่จะได้รับ แถมยังอาจจะได้เงินชดเชยจากรัฐบาลอีกด้วย อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจหลักการพิจารณาจ่ายเงินชดเชยเหมือนกัน ว่าเขาคำนวณกันอย่างไร แต่ที่ผมงงก็คือพื้นที่ตรงนั้นไม่ได้มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ ป้ายชื่อหนองน้ำ กับหมุดที่กำหนดขอบเขตพื้นที่ก็ยังตั้งอยู่ที่เดิม คือถ้าไม่คิดจะอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งน้ำ แล้วท่านจะเก็บป้ายชื่อและหลักเขตเอาไว้ทำพระแสงอะไรครับ

     เอาหล่ะ อย่างไรก็ตามเดี๋ยวผมจะมาเล่าต่อวันหลังว่าผมไปเจออะไรมาบ้าง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น