![]() |
รูปนี้โคตรได้ฟิลเลย ใครรู้ที่มาบอกผมด้วยจะไปขอบคุณเค้า |
จริงๆแล้วผมก็ไม่ค่อยสนใจอะไรใครนะ ใครจะเล่นมือถือดูเว็บ ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมส์ หรือจะทำอะไร มันก็แล้วแต่เค้า เพียงแต่ผมรำคาญพวกดูมือถือไม่เป็นเวลา บางคนแยกไม่ออกว่าตอนนี้ควรทำอะไรก่อน-หลัง เพราะมัวแต่พะวงกับหน้าจอมือถือ ยิ่งคนที่ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนแล้ว ยิ่งต้องมีสติในการทำงานอย่างมาก ผมมักจะตักเตือนน้องๆในแผนกหรือน้องๆในโรงพยาบาลว่าให้ดูคนไข้ก่อน ค่อยดูโทรศัพท์ ทำงานให้จบก่อนค่อยเล่นก็ได้ ส่วนใหญ่น้องๆเค้าก็เชื่อฟังดี แต่พอเผลอๆก็เล่นกันเหมือนเดิม 55 สำหรับพวกพี่ๆไม่ต้องบอกเพราะบอกไปก็ไม่ฟัง เอาเป็นว่าอาการหนักกว่าน้องๆอีกแถมว่าไม่ได้ด้วยนะครับ
แต่ถ้าเราใช้ให้ถูกทางมันก็ช่วยเหลืองานของเราได้เยอะ วันก่อนมีเด็กอายุ 4 ขวบมาเอกซเรย์ เด็กมากับพ่อแม่ แต่ปกติเด็กอยู่กับตายาย ร้องไห้จะไปหาตากับยายท่าเดียว ผมให้ทำอะไรก็ไม่ทำ สุดท้ายแม่เด็กเอามือถือมาวิดีโอคอลคุยกับตายาย เด็กน้อยเห็นหน้าคุณตาคุณยายก็คงหายกลัว สุดท้ายก็ยอมร่วมมือด้วยดี (แต่ที่จริงการถ่ายรูปหรือบันทึกวิดีโอในโรงพยาบาลนั้นมันผิดกฎหมายนะจ๊ะ แต่เพื่อช่วยเด็กเราจำเป็นต้องทำ)
หลายครั้งที่พลังโซเชียลได้ช่วยชีวิตคนที่ลำบาก คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือคนที่กำลังได้รับอันตราย ผมว่ามันโอเคนะที่เรามีอะไรแบบนี้ แต่บางทีมันก็เป็นเครื่องมือทำลายคนได้เหมือนกัน ความเร็วในการแพร่กระจายข้อมูลในยุคนี้ มันทำให้ความคิดความเห็นต่างๆมันไหลเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว บ่อยครั้งขาดการคัดกรอง กว่าจะรู้ตัวก็เสพข้อมูลเท็จไปซะแล้ว
บ่นๆกันไปแต่ชีวิตก็ยังต้องสู้ต่อ เมื่อยังมีลมหายใจก็ยังต้องไปต่อ อย่างน้อยก็เพื่อหัวใจที่มันยังเต้นอยู่ให้รู้ว่าดวงตะวันยังรอคอยฉันอยู่ ในฤดูที่ต่างไป เอ๊ะ คุ้นๆแฮะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น