Comments system

[blogger][disqus][facebook]

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

ความยากลำบากในครั้งแรก

    ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกเสมอ มันเป็นคำพูดที่ดีและก็เป็นจริงซะด้วย ผมเองฉุกคิดถึงคำนี้ได้ตอนที่มีผู้ปกครองเด็กแถวบ้านมาขอคำปรึกษาเรื่องจะส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็กลัวหลายๆอย่าง กลัวไม่มีเงิน กลัวลูกเรียนไม่ไหว กลัวมีสามีก่อนเรียนจบ กลัวต่างๆนาๆ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะผมเองได้ผ่านตรงนี้มาเหมือนกัน ผมมาจากครอบครัวชาวนาธรรมดาครอบครัวหนึ่ง ที่พ่อแม่มีความตั้งใจสูงมากที่จะส่งลูกชาย(ชั่วๆ)คนนี้ให้เรียนสูงๆ ได้ทำงานดีำๆ โดยไม่สนใจว่าตัวเองจะต้องยากลำบากแค่ไหน หรือแม้แต่
คิดว่าเมื่อลูกเรียนจบมาแล้วจะต้องมาเลี้ยงดูพวกท่าน ท่านหวังเพียงให้ผมได้มีอนาคตที่ดี ไม่ต้องลำบากเหมือนกับพวกท่านแค่นั้นก็พอแล้ว
    ตอนนั้นในตำบลของผมแทบไม่มีใครส่งลูกเรียนเกินชั้น ม.ปลาย กันครับ ส่วนใหญ่มักจะให้เรียนแค่ ม.ต้นก็พอแล้ว เรื่องไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยแทบไม่ต้องคุยกันเลยครับ เชื่อไหมว่าในตำบลของผมยังไม่เคยมีใครได้รับปริญญาแม้แต่คนเดียว มีคนเรียนมหาวิทยาลัยอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ไม่มีใครเรียนจบสักคน คุณว่าแปลกไหมล่ะ
    จำได้ว่าตอนนั้นแม่กับพ่อของผมต้องคอยตอบคำถามของชาวบ้านในหมู่บ้านอยู่เสมอว่า คิดยังไงถึงส่งลูกเรียน มันจะไปรอดเหรอท่าทางเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เดี๋ยวก็กลับมาเกาะพ่อแม่กินเหมือนหลายๆคนที่เคยเห็นมา ผมเองได้ยินก็รู้สึกโมโหมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่กัดฟันเรียนมันให้จบ เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับพวกเขา มีแต่ความสำเร็จเท่านั้นที่จะตอบคำถามเหล่านั้นได้
    พอผมเรียนจบจำได้ว่ารู้สึกโล่งใจมาก ในที่สุดเราก็ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจได้ซักที เพราะบ้านของผมมักถูกคนในหมู่บ้านดูถูกเสมอว่ามีลูกชายที่ไม่เอาไหน ทำนาไม่เป็น ดีแต่อ่านหนังสือไปวันๆ ไม่เห็นมันจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับเขาซักที แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วล่ะครับ ผมได้งานทำตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ พอจบปุ๊บก็ต้องย้ายข้าวของไปบ้านพักของโรงพยาบาลทันที ไม่มีแม้แต่เวลาจะกลับไปฉลองที่บ้านกับครอบครัว
     จากตอนนั้นมาถึงตอนนี้วิถีชีวิตคนเปลี่ยนไปความคิดก็เปลี่ยนตามไปด้วย ในหมู่บ้านผมมีคนส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัยมากขึ้น มีรุ่นน้องผมหลายคนได้มีโอกาสเรียนหนังสือ หมู่บ้านก็คึกคักมากขึ้น พ่อเล่าให้ฟังว่ามีหลายครอบครัวเห็นความสำเร็จของผมแล้วพยายามส่งลูกเรียนเหมือนกัน ผมฟังแล้วก็รู้สึกดีใจที่อย่างน้อยสิ่งที่ผมทำไปได้ปูทางให้เด็กรุ่นหลังมีโอกาสทางการศึกษามากขึ้น ถึงแม้จะเป็นเสี้ยวเล็กๆแต่มันก็ทำให้หลายๆครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
     กลับเข้ามาเรื่องเดิมครับ คือที่พ่อแม่เด็กๆเขามาปรึกษาผมกับแฟนเรื่องส่งลูกเรียนเนี่ย ผมก็พยายามให้กำลังใจ ให้ต่อสู้ให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน ส่วนมันจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที
     ผมเองเป็นลูกชาวนาเข้าใจชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างดี แต่เชื่ออยู่เสมอว่าทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นชาวนา แต่เราเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น