Comments system

[blogger][disqus][facebook]

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กลัวห้องมืดกันไหมจ๊ะ

     ภัยธรรมชาติยังคงทำร้ายประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้ง และดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ตอนเด็กๆจำได้ว่าถ้าใครพูดว่าประเทศไทยจะมีแผ่นดินไหว คลื่นสึนามิ หรือแผ่นดินยุบ ก็จะโดนผู้ใหญ่หัวเราะใส่ พร้อมกับคำพูดประมาณว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีทางเกิดในประเทศของเราได้หรอก ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ ผมเองก็เคยเชื่อแบบนี้เหมือนกัน แต่ความเป็นจริงในปัจจุบันมันฟ้องอยู่ชัดๆว่า เรื่องแบบนี้มันไม่ไกลตัวเราอีกต่อไปแล้วนะขอรับ

 
     ขึ้นชื่อว่าความมืด ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็รู้สึกกลัวด้วยกันทั้งนั้น ทำไงได้ มันมองไม่เห็นนี่หว่า และถ้าผมจะขอถามบรรดานักรังสีเทคนิคทั้งหลายว่า พวกท่านเคยรู้สึกกลัวห้องมืดกันบ้างไหมครับ ผมว่าท่านคงมีคำตอบในใจของท่านอยู่แล้ว ยิ่งถ้าต้องเข้าห้องมืดคนเดียวในเวลาดึกๆด้วยแล้วล่ะก้อ....มันคงห้ามไม่ได้ที่เราจะรู้สึกเสียวสันหลังนิดๆ หรือบางคนอาจจะเสียวมากก็ไม่ว่ากันนะครับ

     การทำงานในห้องมืดเป็นสิ่งที่นักรังสีเทคนิคอย่างพวกเราจะต้องผ่านมาบ้างไม่มากก็น้อย บางที่มีผู้ช่วยคอยล้างฟิล์มให้ก็โชคดีไป แต่บางที่ก็มีบุคคลากรอย่างจำกัดจำเขี่ย อย่าว่าแต่หาคนมาล้างฟิล์มเลย จะหาคนมาทำงานก็ยังลำบาก อ้าว..ผมกำลังพูดเรื่องห้องมืดใช่ไหมเนี่ย 555 ครับ เอาเป็นว่าทุกคนต้องเคยปฏิบัติงานในห้องมืดกันทุกคนอย่างแน่นอน แต่จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วย อุปสรรคสำคัญคือ มันมองไม่เห็นน่ะดิ ถ้ามี safe light ให้ก็พอโอเค แต่บางห้องที่ไม่มี safe light ก็ต้องอาศัยความความเคยชินในการทำงานเป็นสำคัญ

     การวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องพยายามเคลื่อนย้ายตำแหน่งสิ่งของในห้องมืดให้น้อยที่สุด หรือถ้าจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ทุกคนรับรู้ด้วย ม่ายงั้นคงได้มั่วกันน่าดู อย่าทำเป็นเล่นนะครับ ผมเคยเจอกับตัวเองมาแล้ว คือว่าแม่บ้านแกหวังดีเห็นว่าห้องมืดมันสกปรก(มากพอสมควร) แกเลยช่วยทำความสะอาดให้ และก็จัดระเบียบกล่องฟิล์มให้ใหม่ ทีนี้ก็งานเข้าสิครับน้องที่เข้าไปล้างฟิล์มเกิดหาฟิล์มไม่เจอ ต้องคลำๆหาอยู่นานทีเดียว แถมวันนั้นก็เกิดการโหลดฟิล์มผิดบ่อยมาก บางท่านอาจจะคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่มันเกิดขึ้นมาแล้วครับท่าน เพราะว่ามีคนมากมายที่ทำงานโดยอาศัยความเคยชินเพียงอย่างเดียว บังเอิญวันนั้นแม่บ้านแกวางฟิล์ม mammogram สลับทางคือเอาด้านหน้ามาไว้ด้านหลัง ทีนี้น้องที่ล้างฟิล์มก็โหลดฟิล์มโดยไม่สนใจว่าฟิล์มมันสลับด้านหรือไม่ (ที่จริงฟิล์มมันมีรอยหยัก แต่บางคนไม่ค่อยสนใจจะจำ) ทำเอาวุ่นวายเหมือนกัน แต่ที่สำคัญคือมันเสียเวลาในการซ่อมฟิล์ม และทำให้ผู้ป่วยได้รับรังสีเพิ่มโดยไม่สมควรแก่เหตุ ทั้งยังสร้างความหงุดหงิดแก่ข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก จนอยากจะเตะก้านคอมันซะจริงๆพับผ่าสิ

     ยิ่งถ้าวันไหนมีหนังผี หรือเล่าเรื่องผีๆสางๆกันล่ะก้อ จะหาผู้กล้าเข้าไปล้างฟิล์มได้ยาก ผมเองโชคดีที่ไม่ต้องล้างเอง แต่ก็ต้องคอยกระตุ้นพวกน้องๆให้เข้าไปล้างฟิล์มกันเสียที จะกลัวอะไรฟะก็แค่ผี น้องๆเคยถามผมว่าผมไม่กลัวหรือไง 555 ผมก็ตอบน้องๆอยู่เสมอว่าผมรู้สึกเฉยๆ มันเป็นงานของเราเราต้องทำให้ดีที่สุด นี่!! น้องก็เลยถามว่าอ้าว งั้นพี่เข้าไปล้างฟิล์มให้หน่อยดิ หนูกลัวผี ผมก็บอกว่า เอ็งต้องหัดเรียนรู้ที่จะทำงานให้ได้ตลอดเวลา ไม่งั้นผู้ป่วยที่รอฟิล์มอยู่จะทำยังไง หึึหึหึ ก็พวกแกเล่นคุยกันเรื่องผีซะตั้งนานแบบนี้ ผมก็เสียวๆเหมือนกันนะครับ ใครมันจะเข้าไปเสี่ยงฟะ ตูก็กลัวผีเหมือนกันนะเฟ้ย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น