Comments system

[blogger][disqus][facebook]

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ญี่ปุ่นในวันนี้

     ผมได้ดูรายการ ทูไนท์โชว์ เมื่อคืนนี้ซึ่งทางรายการได้นำเสนอ เรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นหลังจากวิกฤติ แผ่นดินไหว คลื่นสึนามิ และกัมมันตภาพรังสี เห็นภาพความเงียบเหงาของกรุงโตเกียวก็รู้สึกแปลกๆ เพราะเราเคยเห็นแต่ภาพที่มีผู้คนมากมายเบียดเสียดกันเต็มไปหมด แถมแต่ละคนก็เดินกันเร็วมาก( อันนี้ผมยืนยันได้ ) ร้านรวงก็เต็มไปหมด เป็นเมืองหลวงที่แออัดเอามากๆ

     เห็นหน้าของพ่อค้าปลาในตลาด แล้วรู้สึกหดหู่ใจเหมือนกันครับ จากที่เคยขายกันแทบไม่ทัน กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ลดแบบสุดตัวแล้วก็ยังไม่ค่อยจะมีใครมาซื้อ ทางรายการก็ใจดีอุตส่าห์ซื้อปลาแซลมอน เอามารับประทานโชว์ในรายการ เพื่อให้คนไทยเห็นว่า มันกินได้ ไม่มีสารพิษตกค้าง อย่ากังวลจนเกินเหตุ ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้น่ากลัวจนไม่น่าท่องเที่ยว ถ้าพอจะสามารถไปเที่ยวได้ โดยที่ตัวเองและครอบครัวไม่เดือดร้อน ก็ช่วยๆกันหน่อยคงไม่เสียหายอะไรมากนัก

     บ้านเราเองก็อยู่ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง แทบทุกหมู่บ้านมีการเคลื่อนไหว ผมเข้าใจว่างานนี้คงมีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันมาก เพราะเห็นใครๆก็พูดกันว่าจะไปช่วยพรรคนั้น สนับสนุนคนนี้ อยากให้คนนั้นได้เป็นนายก สำหรับครอบครัวผมที่มีแนวคิดทางการเมืองไม่ค่อยจะเหมือนกัน ก็คงแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนครับ ทางเดี่ยวกันไปด้วยกันแต่กาคนละเบอร์ ครับผม

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ความปลอดภัยของเครื่องเอกซเรย์ที่สนามบิน

     วันก่อนมีญาติผู้ป่วยถามผมเกี่ยวกับเครื่องเอกซเรย์ที่สนามบิน ว่ามีอันตรายมากไหม จะก่อให้เกิดมะเร็งไหม เข้าใจเขาคงค่อนข้างกังวลใจมากไปนิดนึง อย่างว่าล่ะครับสมัยนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ คงไม่ไม่แปลกที่คนเราจะกังวลในสิ่งที่เราไม่แน่ใจ ผมก็เลยบอกให้เขาสบายใจได้เลย รังสีที่ใช้ในเครื่องเอกซเรย์ที่สนามบิน มันคือรังสีเอกซ์พลังงานต่ำๆ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายครับ และไม่มีการแผ่กระจายออกไปของรังสีในระยะไกล เพราะฉะนั้นอย่าไปกลัวมันมากเกินไปครับ

     ถ้าผมจำไม่ผิดเมื่อสัก 2-3 ปีก่อนเคยมีข่าวการประท้วง เรียกร้องให้ยุติการใช้งานเครื่องเอกซเรย์ที่ใช้ในสนามบิน ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งครั้งนั้นสหภาพสิทธิพลเรือนอเมริกันเป็นผู้ยื่นหนังสือประท้วง เนื่องจากภาพที่ได้จากเครื่องเอกซเรย์ที่ว่านี้ มันเห็นเนื้อหนังมังสาที่อยู่ภายใต้เสื้อผ้าอย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป แต่ทางการก็อ้างถึงเรื่องการป้องกันภัยโดยเฉพาะการก่อการร้าย ที่มุ่งเป้ามาที่อเมริกาเป็นหลัก นอกจากนี้จะไม่มีการบันทึกข้อมูลเก็บไว้ และมีการทำกราฟฟิกเบลอๆที่ใบหน้าของผู้โดยสาร จะได้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร 


     ผมเองตอนนั้นได้ดูข่าวก็รู้สึกเห็นใจทั้งสองฝ่าย ประชาชนก็ไม่อยากโชว์ออฟให้ใครเห็น เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งเหตุการณ์แนวๆนี้มีให้เห็นประจำครับ โดยเฉพาะในหน่วยงานของรัฐที่ต้องให้บริการประชาชนจำนวนมากๆ บางทีก็คุยกันได้ บางทีก็ทะเลาะกันบ้าง แต่ยังดีที่สังคมไทยยังมีความถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอยู่ ส่วนใหญ่ปัญหามักไม่ค่อยบานปลาย เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต


    ได้แต่หวังว่าสังคมไทยจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขนะครับ หวังว่าเลือกตั้งคราวจะได้คนดีเข้าไป(บ้างนะ)ในสภา เพื่อสร้างความเจริญให้แก่บ้านเมืองของเรา